โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด แม็กกินนิส (กุมภาพันธ์ 1926 – มีนาคม 2025)

โรเบิร์ต แม็กกินนิส เป็นศิลปินและนักวาดภาพประกอบชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักจากภาพประกอบปกหนังสือปกอ่อนมากกว่า 1,200 เล่ม และโปสเตอร์ภาพยนตร์มากกว่า 40 เรื่อง รวมถึงเรื่อง Breakfast at Tiffany’s (งานโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา) เรื่อง Barbarella และภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ และหนัง แมตต์ เฮล์ม (ดีน มาร์ติน แสดง) อีกหลายเรื่อง

โรเบิร์ต “บ็อบ” เอ็ดเวิร์ด แม็กกินนิส เกิด กุมภาพันธ์ 1926 ในเมืองซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ เพ่อของเขาเป็นศิลปินที่มีความสามารถ เมื่อเห็นชัดว่าลูกชายของเขามีพรสวรรค์ พ่อจึงสนับสนุนพรสวรรค์ด้านการวาดภาพของลูกชาย โดยแม่ของเขาลงทะเบียนให้เขาเรียนวาดภาพในวันเสาร์ตอนเช้าที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะซินซินแนติ

ครูสอนศิลปะในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถหาโอกาสฝึกงานที่ Walt Disney Studios ในแคลิฟอร์เนียได้

แม็กกินนิส เดินทางโดยโบกรถไปแคลิฟอร์เนียเพื่อรับงานนี้ หลังจากที่สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้สตูดิโอต้องลดจำนวนภาพยนตร์แอนิเมชั่นลงเพื่อมุ่งเน้นที่การฝึกอบรมและภาพยนตร์ที่สร้างขวัญกำลังใจ เขารับใช้ในกองทัพเรืออยู่ช่วงหนึ่ง จากนั้นเขาก็กลับบ้านเพื่อศึกษาศิลปะที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต เขาเรียนที่โรงเรียนศิลปะเอกชนที่ดำเนินการโดย Jackson Grey Storey

ต่อมา แม็กกินนิสได้ทำงานศิลปะให้กับ Ladies’ Home Journal, Woman’s Home Companion, Good Housekeeping, TIME, Argosy, Guideposts และ The Saturday Evening Post เขาเป็นนักออกแบบชื่อเรื่องหลักให้กับ The Hallelujah Trail (1965)

ด้วยความเอาใจใส่ในรายละเอียดของ McGinnis มากจนถึงขั้นเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ทำอาร์ตเวิร์กสำหรับ Arabesque เขาก็ขอให้ส่งชุดลายเสือของSophia Loren ไปให้เขาเป็นนายแบบเพื่อที่เขาจะได้มีรูปลักษณ์ที่เหมาะสม

ในปี 1985 McGinnis ได้รับรางวัล “ศิลปินโรแมนติกแห่งปี” จากนิตยสาร Romantic Times สำหรับปกหนังสือนิยายโรแมนติกหลายเล่มของเขา

ในช่วงปลายทศวรรษปี 1940 แม็กกินนิสได้งานในซินซินแนติกับสตูดิโอศิลปะโฆษณาซึ่งเขาได้วาดโฆษณาที่นอนและโทรทัศน์สำหรับห้างสรรพสินค้าต่างๆ การได้พบกับโคบี้ วิทมอร์ นักวาดภาพประกอบที่มีชื่อเสียงเป็นแรงบันดาลใจให้เขา พอย้ายมานิวยอร์กในปี 1953 พร้อมกับภรรยา เขาทำงานให้กับ Fredman Chaite Studios ผลิตสื่อโฆษณา นอกจากวิทมอร์แล้ว ยังมีศิลปินคนอื่นๆ ที่ทำงานที่นั่นในช่วงเวลานั้น ได้แก่ แฟรงก์ คาลัน, แฟรงก์ แม็กคาร์ธี, บ็อบพีค และแจ็ก เทิร์สตัน

ผลงานของเขาสำหรับหนังชุด James Bond ที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการร่วมงานกับ แฟรงก์ แม็กคาร์ธี ใน Thunderball, You Only Live Twice และ On Her Majesty’s Secret Service ไปจนถึงความพยายามวาดภาพเดี่ยวของเขากับ Diamonds are Forever, Live and Let Die, The Man with the Golden Gun, The Spy Who Loved Me และ Moonraker

แม็กกินนิส เป็นตัวแทนของศิลปินรุ่นใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต ซึ่งกำลังรอคอยการดับสูญอย่างน่าเสียดาย ผมรู้สึกว่าควรค่าแก่การเปรียบเทียบเรื่องนี้กับคำพูดจากภาพยนตร์เรื่อง Octopussy ที่ว่า “Mr. Bond เป็นศิลปินที่หายากมากและจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า”

ภาพที่เขาวาดด้วยมือช่วยกำหนดรูปลักษณ์ของเจมส์ บอนด์ในช่วงเวลาที่โปสเตอร์ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นความประทับใจแรกพบ และบางครั้งเป็นความประทับใจที่คงอยู่ยาวนานที่สุดด้วย … โปสเตอร์ภาพยนตร์ในปัจจุบันที่มีหัวลอยได้และสมมาตรที่ผ่านการปรับแต่งด้วยโปรแกรม Photoshop ทำหน้าที่ในการประกาศวันฉายได้ ผลงานของ แม็กกินนิส ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังทำให้ภาพยนตร์เป็นที่ต้องการ โปสเตอร์เจมส์ บอนด์ของเขาโดยเฉพาะมีเอกลักษณ์ ความแม่นยำ และเสน่ห์ โปสเตอร์เหล่านี้มีชีวิตชีวา สร้างขึ้นด้วยมือและคิดมาอย่างดี ไม่ใช่สร้างขึ้นบนหน้าจออย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันกำหนดเวลาการตลาด

ในปี 1948 แม็กกินนิสแต่งงานกับเฟิร์น มิตเชลล์ ซึ่งเขาพบเธอขณะเรียนมหาวิทยาลัย และเสียชีวิตเมื่อ กุมภาพันธ์ 2023 หลังจากแต่งงานกันมา 75 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน แม็กกินนิส เสียชีวิตที่บ้านของเขาในโอลด์กรีนิช รัฐคอนเนตทิคัต เมื่อ มีนาคม 2025 ขณะอายุได้ 99 ปี หลังจากที่เขาเสียชีวิต ทริป กาเบรียล จากนิวยอร์กไทมส์ เขียนว่าภาพประกอบของแม็กกินนิส “นิยามยุคสมัย” โดยตั้งข้อสังเกตว่า “ผลงานศิลปะที่ดูสมจริงและเต็มไปด้วยความเซ็กซี่ เร้าร้อนของผู้หญิงพร้อมส่วนโค้งส่วนเว้า” ของเขา

By Posterman